สุขภาพตาเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณจะมองเห็นได้ดีมากหรือน้อยแค่ไหน และมีความจำเป็นไม่น้อยไปกว่าการตรวจสุขภาพอื่นๆ โดยในการตรวจสุขภาพดวงตาคนที่รับการตรวจจะได้รับการประเมินเรื่องของการมองเห็น การตรวจสุขภาพตาในโรคตาที่พบได้บ่อย และการประเมินดูจอประสาทตา เส้นประสาทตา รวมไปถึงเส้นเลือดเล็กๆ ในดวงตา ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงโรคทางร่างกายและโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ซ่อนเอาไว้อีกด้วย
ข้อสังเกตโรคตาบางชนิด
โรคทางสายตาบางชนิดไม่ส่อเค้าเลยในระยะแรกของโรค เช่น โรคต้อหิน โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคเบาหวานขึ้นตา แต่โรคเหล่านี้ถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะลุกลามมากกว่าเดิม และทำให้มองไม่เห็นในที่สุด การที่พบจักษุแพทย์เป็นประจำจะช่วยเรื่องของการรักษาแต่เนิ่นๆ และช่วยป้องกันความพิการทางสายตาได้ นอกจากนี้การตรวจสุขภาพตาและการดูแลตั้งแต่โรคเริ่มต้นก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกด้วย
คนที่ควรตรวจสุขภาพตาคือใครบ้าง
1.วัยเด็ก
วัยเด็กเป็นวัยที่ควรตรวจสอบสุขภาพตาเป็นประจำ เพราะว่าจะช่วยในการคัดกรองการมองเห็นได้อย่างดี เด็กบางคนอาจไม่รู้ว่าการมองเห็นที่ปกตินั้นเป็นอย่างไร หรือบางครั้งก็ไม่สามารถบอกความผิดปกติทางดวงตาได้ ทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาได้แบบถาวร ยกตัวอย่างเช่น โรคตาขี้เกียจ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญได้แก่การที่เด็กๆ ได้รับการตรวจสอบดวงตาอย่างละเอียดในทุกปี เพื่อให้มีการมองเห็นที่ดีและมีคุณภาพ ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้และทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ผู้ใหญ่
ยิ่งอายุมากเท่าใด ความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคทางสายตายิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ทั้งต้อหิน ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ยังมีโรคเบาหวานขึ้นตา จากคำแนะนำขององค์กรทางการแพทย์ ผู้ใหญ่ควรตรวจสายตาเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะวัยนี้เป็นวัยที่สายตาเสื่อมลง ทำให้การมองเห็นเปลี่ยนแปลง คนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป จะมีปัญหาทางการอ่านหนังสือ จากสายตาที่ยาวตามอายุ ทำให้ไม่สบายตาและปวดหัว
บุคคลใดที่ต้องระวังเป็นพิเศษในโรคทางสายตา
1.คนที่มีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับโรคทางสายตา
2.คนที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
3.คนที่มีพ่อหรือแม่เป็นต้อหิน กระจกตาเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม
4.คนที่ได้รับยาซึ่งมีผลกับดวงตา
5.คนที่ใช้คอนแทคเลนส์เป็นประจำ
6.คนที่ใช้สายตามาก
อาจจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าการตรวจสุขภาพตาสำคัญสำหรับทุกคนอย่างยิ่ง จะดีแค่ไหนหากว่าคุณจะพยายามใส่ใจดวงตานับตั้งแต่วันนี้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
